VPN iPhone คืออะไร? คุณต้องใช้มันหรือไม่ในปี 2025?
                    iPhone ของคุณสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง: สั่งอาหาร ปลดล็อกโดยใช้ใบหน้าของคุณ และแก้ข้อความของคุณให้กลายเป็นข้อความไร้สาระโดยอัตโนมัติ แต่สิ่งที่มันไม่สามารถทำได้ก็คือมันไม่สามารถรักษาความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของคุณด้วยตัวของมันเองได้
Apple มีคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวติดมาในตัว แต่คุณสมบัตินั้นยังครอบคลุมไม่รอบด้าน ด้วยเหตุนี้ทำให้ข้อมูลส่วนใหญ่ของคุณยังถูกเปิดเผยให้กับบุคคลที่สามได้อยู่ อย่างเช่น ISP, ผู้โฆษณา และแม้แต่อาชญากรไซเบอร์
นั่นเป็นเรื่องที่ VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) จะเข้ามาช่วยแก้ไขได้ มันจะเข้ารหัสทราฟฟิคของคุณและปิดบังที่อยู่ IP ของคุณจากเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม ในบทความนี้ พวกเราจะมาสำรวจดูกันว่าทำไมคุณยังควรต้องใช้ VPN บน iPhone อยู่ และจะเริ่มติดตั้งมันได้อย่างไร พวกเราจะมอบเคล็ดลับในการเลือกบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iOS ให้คุณด้วย เพื่อที่คุณจะสามารถทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลประกอบได้
ทำไมฉันถึงต้องใช้ VPN สำหรับ iPhone ของฉันด้วย?
นี่คือเหตุผลทั่วไปที่ทำให้การใช้ VPN จะมีประโยชน์สำหรับคุณ
- ปกป้องข้อมูลของคุณบน Wi-Fi สาธารณะ: เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะมักจะไม่ปลอดภัย หมายความว่าพวกเขามักไม่ได้ตั้งรหัสผ่านหรือไม่มีการเข้ารหัสข้อมูล ดังนั้นเมื่อคุณเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ร้านกาแฟ สนามบิน หรือโรงแรม ข้อมูลของคุณก็อาจจะรั่วไหลไปผ่านการดักข้อมูลโดยผู้ประสงค์ร้ายได้ นี่อาจจะทำให้พวกเขาได้รับข้อมูลส่วนตัวที่มีความละเอียดอ่อน อย่างเช่น ข้อมูลบัตรเครดิตของคุณไป VPN จะหยุดไม่ให้คนอื่นสามารถมาแฮ็ก iPhone ของคุณผ่านทาง Wi-Fi ด้วยการทำให้ไม่สามารถเปิดอ่านข้อมูลทราฟฟิคของคุณได้
 - เพิ่มความเป็นส่วนตัวออนไลน์: ด้วยการเข้ารหัสทราฟฟิคของคุณและปิดบังที่อยู่ IP ของคุณ VPN จะช่วยทำให้ผู้โฆษณาและบุคคลที่สามอื่น ๆ ติดตามพฤติกรรมการเรียกดูเนื้อหาและการใช้งานออนไลน์บนเว็บของคุณได้ยากขึ้น
 - ปิดบังที่อยู่ IP: ที่อยู่ IP ของ iPhone จะเปิดเผยตำแหน่งโดยประมาณของคุณให้กับเว็บไซต์และแอปที่คุณใช้งาน VPN จะซ่อนที่อยู่ IP จริงของคุณ โดยจะแทนที่ด้วยที่อยู่ IP ของผู้ให้บริการ VPN เพื่อเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณ
 - รักษาสถานะการเข้าถึงบริการประจำของคุณ: VPN จะช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรและมีความปลอดภัย ทำให้สามารถเข้าถึงแอปและบริการที่คุณประจำอยู่ทุกวันได้ แม้ว่าคุณจะอยู่ระหว่างเดินทางก็ตาม มันสามารถช่วยป้องกันการแทรกแซงและรักษาความเป็นส่วนตัวให้การเชื่อมต่อของคุณด้วย ดังนั้นคุณจะสามารถเชื่อมต่อไปยังการสมัครสมาชิกและบัญชีของคุณได้อย่างปลอดภัยในขณะเดินทาง
 
ควรจะเปิดหรือปิด VPN บน iPhone?
พูดกันโดยทั่วไปแล้ว การเปิด VPN ไว้ตลอดเวลานั้นเป็นแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้มั่นใจว่ากิจกรรมออนไลน์ของคุณนั้นจะปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณจะได้รับการป้องกัน แต่มีบางสถานการณ์ที่การปิดมันชั่วคราวก็อาจจะสมเหตุสมผลเช่นกัน
เมื่อไรที่ควรเปิด VPN มากที่สุด
VPN ของคุณควรจะถูกเปิดใช้งานเมื่อคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าคุณจะกำลังใช้ Wi-Fi หรือเน็ตมือถือก็ตาม มีสองเหตุผลหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ข้อแรก iPhone ของคุณอาจจะสื่อสารกับแอปและเว็บไซต์ในพื้นหลัง แม้ว่าคุณจะไม่ได้เปิดมันขึ้นมาเพื่อใช้งานก็ตาม การเปิด VPN จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลพื้นหลังนั้นจะถูกเข้ารหัสและมีความเป็นส่วนตัว
ข้อที่สอง แอปและเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะติดตามที่อยู่ IP, ตำแหน่ง และกิจกรรมของคุณในขณะที่คุณใช้งานมัน ข้อมูลนี้มักจะถูกนำไปใช้สร้างเป็นโปรไฟล์อย่างละเอียดเกี่ยวกับคุณเพื่อใช้ทำการโฆษณาแบบระบุเป้าหมายหรือเพื่อการวิเคราะห์ VPN จะป้องกันการติดตามรูปแบบนี้ด้วยการไม่เปิดเผยตัวตนสำหรับกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ตของคุณ

เมื่อไรที่คุณอาจจะควรปิดมัน (แบต ความเร็ว การขัดแย้งของแอป)
ถึงแม้ว่าการเปิด VPN เป็นค่าเริ่มต้นนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่การปิดมันชั่วคราวก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเช่นกัน:
- คุณพยายามจะประหยัดแบต: การเข้ารหัส VPN จะต้องใช้พลังงานการประมวลผลเล็กน้อยด้วยเช่นกัน ปกติแล้วผลกระทบของมันจะน้อยมาก แต่ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่คุณต้องการประหยัดแบต iPhone ให้ได้มากที่สุด การปิด VPN ก็จะช่วยได้เล็กน้อย
 - คุณต้องการความเร็วที่สูงขึ้น: การใช้ VPN จะลดความเร็วการเชื่อมต่อลงเล็กน้อย เพราะว่ามันจะใช้เวลาในการเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิคผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN และก็เพื่อเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ส่วนใหญ่แล้ว มันแทบจะสังเกตไม่เห็นเลย แต่มันก็อาจจะสร้างความแตกต่างได้ ในขณะที่คุณกำลังเล่นเกมที่มีความไวต่อเวลาแฝง หรือในขณะที่กำลังดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่
 - แอปที่คุณต้องการจะใช้นั้นมีการบล็อก VPN: บางแอป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกแอปธนาคารหรือบริการสตรีมมิ่งอาจจะมีการบล็อกทราฟฟิค VPN ถ้าคุณกำลังมีปัญหาในการเข้าถึงแอปหรือบริการต่าง ๆ การปิด VPN ก็อาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
 
การใช้ VPN บน iPhone นั้นปลอดภัยหรือไม่?
นอกจากมันจะปลอดภัยแล้ว การใช้ VPN บน iPhone ยังเป็นเรื่องที่ได้รับการแนะนำอีกด้วย ตราบใดก็ตามที่คุณเลือกผู้ให้บริการที่มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่โปร่งใสและมีชื่อเสียง
ความปลอดภัยภายในตัวของ Apple vs. ประโยชน์ของ VPN
Apple มีคุณสมบัติที่ชื่อว่า iCloud Private Relay (ใช้งานได้สำหรับผู้สมัครสมาชิก iCloud+) ซึ่งมันจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณ แต่มันยังไม่สามารถแทนที่ VPN ได้
สรุปง่าย ๆ iCloud Private Relay จะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถมองเห็นที่อยู่ IP จริงของคุณและเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมได้ นี่หมายความว่าจะไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างคุณและกิจกรรมออนไลน์ของคุณ
อย่างไรก็ตาม iCloud Private Relay นั้นจะต่างจาก VPN ตรงที่มันจะปกป้องเฉพาะกิจกรรมบน Safari มันจะไม่ได้ปกป้องทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตบนแอปหรือเบราว์เซอร์อื่น ๆ นอกจากนี้มันก็ไม่อนุญาตให้คุณปลอมตำแหน่งของคุณด้วย ดังนั้นถึงแม้ว่า iCloud Private Relay จะเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์ แต่ VPN ก็ยังคงเป็นโซลูชันด้านความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุมมากกว่า
VPN ส่งผลอย่างไรต่อความเร็วและแบตของ iPhone
ข้อเสียของการใช้ VPN คือการเข้ารหัสทราฟฟิคนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อความเร็วและอาจจะใช้แบตมากกว่าปกติเล็กน้อย แต่ด้วยโปรโตคอลที่ทันสมัยอย่าง Lightway คุณก็อาจจะแทบไม่สังเกตเห็นถึงผลกระทบของมันเลย คุณอาจจะต้องปิด VPN ของคุณชั่วคราวในระหว่างการเข้าถึงแอปหรือเว็บไซต์ที่บล็อกทราฟฟิค VPN หรือทำงานไม่ถูกต้องถ้าไม่ทราบที่อยู่ IP หรือตำแหน่งจริงของคุณ
ข้อควรพิจารณาทางกฎหมาย
คุณควรจะตรวจสอบด้วยว่า VPN ที่คุณเลือกนั้นถูกกฎหมายในประเทศที่คุณต้องการจะใช้งานมันหรือไม่ VPN นั้นถูกกฎหมายในพื้นที่ส่วนใหญ่ และมันก็มักจะถูกใช้งานโดยทั้งตัวบุคคลและบริษัท เพื่อเป็นการปกป้องข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนและรักษาความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์ แต่บางประเทศจะจำกัดและกำกับดูแลการใช้ VPN ทำให้สามารถใช้งานได้เฉพาะ VPN ที่รัฐอนุมัติเท่านั้น คุณจึงควรตรวจสอบยืนยันให้แน่ใจก่อนจะใช้งาน
คำถามที่พบบ่อย: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ VPN บน iPhone
                                                            
                            ฉันควรจะเปิด VPN บน iPhone หรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ใช่ คุณควรจะเปิด VPN เมื่อไรก็ตามที่คุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวและปกป้องข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย VPN จะเข้ารหัสการเชื่อมต่อและปิดบังที่อยู่ IP ของคุณ ทำให้มันกลายเป็นเรื่องยากที่บริษัทต่าง ๆ จะมาติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณ หรือการที่อาชญากรไซเบอร์จะมุ่งเป้ามาที่คุณ นี่เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นพิเศษเมื่อคุณใช้งานเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะที่ไม่ปลอดภัย
                                                            
                            iPhone มี VPN ในตัวหรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ไม่มี iPhone ไม่มีบริการ VPN ในตัว ในขณะที่การตั้งค่า VPN จะทำให้คุณกำหนดค่าและเชื่อมต่อไปยัง VPN เองได้ (นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงเห็นตัวเลือก VPN ในการตั้งค่า iPhone ของคุณ) คุณยังต้องมีผู้ให้บริการ VPN เพื่อที่จะมอบรายละเอียดของเซิร์ฟเวอร์และข้อมูลล็อกอินให้คุณอยู่ดี
iCloud Private Relay ไม่ใช่ VPN แต่มันก็มีการป้องกันที่คล้ายกันในบางส่วน แต่มันจะปกป้องเฉพาะทราฟฟิค Safari ในขณะที่ VPN จะปกป้องทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตทั้งหมดบนอุปกรณ์ของคุณ
                                                            
                            iOS ใช้ VPN อัตโนมัติหรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ไม่ iOS ไม่ได้ใช้ VPN อัตโนมัติ เพราะว่ามันไม่ได้มาพร้อมกับบริการ VPN ภายในตัว หลังจากที่คุณตั้งค่า VPN แล้ว คุณจะสามารถเปิดคุณสมบัติการเชื่อมต่ออัตโนมัติของมันได้
แอป VPN บุคคลที่สามหลายรายต่างก็จะมีตัวเลือกในการเปิด VPN อัตโนมัติสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเช่น เมื่อคุณเชื่อมต่อไปยังเครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย หรือเปลี่ยนไปใช้เน็ตมือถือ เพื่อช่วยให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อของคุณจะได้รับการป้องกันตลอด แม้ว่าคุณจะลืมเชื่อมต่อไปยัง VPN ก็ตาม
                                                            
                            VPN บน iPhone ใช้งานได้ฟรีหรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    VPN สำหรับ iPhone มีทั้งฟรีและแบบจ่ายเงิน แต่ VPN ฟรีนั้นมักจะมาพร้อมกับข้อจำกัด อย่างเช่น ความเร็วที่ต่ำกว่า การจำกัดข้อมูล หรือตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่มีจำกัด บางตัวนั้นจะมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว อย่างการบันทึกข้อมูลและการนำข้อมูลไปขาย เพื่อให้ได้ความเร็วและความปลอดภัยที่ดีที่สุด เราแนะนำให้เลือกบริการ VPN แบบจ่ายเงินที่มีชื่อเสียงอย่าง ExpressVPN
                                                            
                            ฉันจะรับ VPN บน iPhone ได้อย่างไร?                            
                                
                            
                        
                    
                    วิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะรับ VPN บน iPhone ของคุณก็คือการดาวน์โหลดแอป VPN จาก App Store และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอที่ wizard การติดตั้งบอก กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น
                                                            
                            VPN ดีกว่าการท่องเว็บแบบส่วนตัวหรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ใช่ VPN จะมีการป้องกันที่ครอบคลุมกว่า แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด คุณก็ควรใช้ทั้งคู่
การท่องเว็บแบบส่วนตัวจะป้องกันเว็บไซต์ไม่ให้เก็บคุกกี้ไว้บนอุปกรณ์ของคุณ บล็อกการติดตามบุคคลที่สาม และลบการค้นหาหรือประวัติการท่องเว็บของคุณโดยอัตโนมัติหลังจากที่คุณปิดหน้าต่างแล้ว อย่างไรก็ตาม มันจะไม่ได้ซ่อนที่อยู่ IP หรือเข้ารหัสผ่านทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตของคุณ นี่จะหมายความว่าเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม, ISP ของคุณ และคนอื่น ๆ บนเครือข่ายจะสามารถมองเห็นกิจกรรมของคุณได้
VPN จะเข้ารหัสทราฟฟิคอินเทอร์เน็ตของคุณทั้งหมด (ไม่ใช่เพียงแค่ใน Safari) และมันจะปิดบังที่อยู่ IP ของคุณ ทำให้คุณได้รับการป้องกันและมีความเป็นส่วนตัวจากการโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น
                                                            
                            ฉันสามารถใช้ VPN บน iPhone โดยที่ไม่มีแอปได้หรือไม่?                            
                                
                            
                        
                    
                    ได้ คุณสามารถใช้ VPN บน iPhone โดยไม่ติดตั้งแอปเพิ่มได้ iOS รองรับโปรโตคอลหลายโปรโตคอลภายในตัว และคุณก็สามารถกำหนดค่าการเชื่อมต่อเองภายในการตั้งค่าของ iPhone ได้ อย่างไรก็ตาม คุณยังคงต้องใช้บริการ VPN บุคคลที่สามเพื่อที่จะขอรายละเอียดเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลล็อกอิน และข้อมูลสำหรับการกำหนดค่าอยู่ดี
ก้าวแรกสู่การปกป้องตัวตนออนไลน์ของคุณ ลองใช้ ExpressVPN ไม่มีความเสี่ยง
รับ ExpressVPN